28 กุมภาพันธ์ 2557

BUS 6012 : สรุปสอบ Final

BUS 6012 สรุปสอบ Final
บทที่ 4 ตลาดการเงิน สถาบันการเงิน และอัตราดอกเบี้ย
บทที่ 5 ความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทน
บทที่ 8 หุ้น และมูลค่าหุ้น
บทที่ 10 งบลงทุน
บทที่ 18 ตราสานอนุพันธ์และการจัดการความเสี่ยง
หน้า 1                                                 หน้า 2

หน้า 3                                                  หน้า 4


Download BUS 6012 สรุปสอบ Final (PDF)

16 กุมภาพันธ์ 2557

BUS 6012 การบ้าน ครั้งที่ 3 (16/02/2557)

BUS 6012 การบ้าน ครั้งที่ 3 (16/02/2557)
บทที่ 13 ข้อ 13-8, 13-12, 13-13
บทที่ 14 ข้อ 14-5
บทที่ 16 ข้อ 16-1 (e), (f)

อาจารย์ผู้บรรยาย รศ.พูนศักดิ์ แสงสันต์ ; 16 กุมภาพันธ์ 2557

คิดโดยใช้เครื่องคำนวณ Texas Instruments BA II Plus

13-8) บริษัท PLZ จำกัด ประมาณการโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมของบริษัท ขณะนี้ บริษัทมีโครงสร้างเงินทุนประกอบด้วยหนี้สิน 20% และส่วนของผู้ถือหุ้น 80% อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง(kRF) เท่ากับ 5% ส่วนชดเชยความเสี่ยงของตลาด(market risk premium: kM - kRF) เท่ากับ 10% อัตราภาษีเงินได้ เท่ากับ  30% ต้นทุนของส่วนของผู้ถือหุ้น (cost of equity: kS) เท่ากับ 18% ซึ่งได้มาจากการคำนวณตามสมการ CAPM ถ้าบริษัทเปลี่ยนโครงสร้างเงินทุนโดยมีสัดส่วนของหนี้สินเท่ากับ 40% และส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 60% ต้นทุนของส่วนของผู้ถือหุ้น (cost of equity: kS) จะเท่ากับเท่าไร

ข้อมูลจากโจทย์: Facts as given Current Capital Structure
20% Debt, 80% Equity
kRF = 5%
kM-kRF = 10%
T = 30%
kS = 18%

Step1: Determine the firm's current beta.
kS    = kRF + (kM - kRF)b
18% =  5% + (10%)b
13% = 10%b
b = 1.30

Step2: Determine the firm's unlevered beta, bU.
bU = bL/[1 + (1-T)(D/E)]
bU = 1.30/[1+(1-0.3)(0.20/0.80)]
bU = 1.30/1.1750
bU = 1.1064

Step3: Determine the firm's beta under the new capital structure.
bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.1064[1+(1-0.3)(0.40/0.60)]
bL = 1.1064(1+0.4667)
bL = 1.1064(1.4667)
bL = 1.6228

Step4: Determine the firm's new cost of equity under the changed capital structure.
kS = kRF + (kM - kRF)b
kS = 5% + (10%)1.6228
kS = 5% + 16.2228
kS = 21.228%

ต้นทุนของส่วนของผู้ถือหุ้น (cost of equity: kS) = 21.23%

13-12) บริษัท ABC จำกัด กำลังพิจารณาหาโครงสร้างเงินลงทุนที่เหมาะสม โครงสร้างเงินทุนของบริษัทในปัจจุบันมี หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ ไม่มีหุ้นบริมสิทธิ์
บริษัทใช้ CAPM ประมาณการ cost of common equity (kS) อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง(kRF) เท่ากับ 4% ส่วนชดเชยความเสี่ยงของตลาด(market risk premium:(kM - kRF)) เท่ากับ 8% อัตราภาษีเงินได้เท่ากับ 30% ถ้าค่า Unlevered Beta(bU) ของบริษัท เท่ากับ 1.40 จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น โครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม (Optimal Capital Structure) ของบริษัทควรจะมี Debt Ratio อยู่ในระดับใด และ WACC เท่ากับเท่าไร
ข้อมูลจากโจทย์:
kRF = 4%
kM-kRF = 8%
bU = 1.40
T = 30%

(1) หา Beta:
bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.40[1+(1-0.30)(0.0/1.0)]
bL = 1.40[1+0]
bL = 1.40(1)
bL = 1.40

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.40[1+(1-0.30)(0.2/0.8)]
bL = 1.40[1+(0.70)(0.25)]
bL = 1.40(1.1750)
bL = 1.6450

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.40[1+(1-0.30)(0.4/0.6)]
bL = 1.40[1+(0.70)(0.6667)
bL = 1.40(1.4667)
bL = 2.0533

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.40[1+(1-0.30)(0.6/0.4)]
bL = 1.40[1+(0.70)(1.50)
bL = 1.40(2.05)
bL = 2.87

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.40[1+(1-0.30)(0.8/0.2)]
bL = 1.40[1+(0.70)(4.00)
bL = 1.40(3.80)
bL = 5.32

(2) หา kS:
kkRF + (kkRF)b
k= 4% + (8%)1.40
k= 4% + 11.20%
k= 15.20%

kkRF + (kkRF)b
k= 4% + (8%)1.6450
k= 4% + 13.16%
k= 17.16%

kkRF + (kkRF)b
k= 4% + (8%)2.0533
k= 4% + 16.4264%
k= 20.43%

kkRF + (kkRF)b
k= 4% + (8%)2.87
k= 4% + 22.96%
k= 26.96%

kkRF + (kkRF)b
k= 4% + (8%)5.32
k= 4% + 42.56%
k= 46.56%

(3) หา WACC:
WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.0)(8.0%)(1-0.30) + (1.0)(15.20%)
WACC = 0.0% + 15.20%
WACC = 15.20%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.2)(9.0%)(1-0.30) + (0.8)(17.16%)
WACC = 1.26% + 13.728%
WACC = 14.99%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.4)(11.0%)(1-0.30) + (0.6)(20.43%)
WACC = 3.08% + 12.258%
WACC = 15.34%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.6)(12.5%)(1-0.30) + (0.4)(26.96%)
WACC = 5.25% + 10.784%
WACC = 16.03%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.8)(16.0%)(1-0.30) + (0.2)(46.56%)
WACC = 8.96% + 9.312%
WACC = 18.27%



ดังนั้น Optimal Capital Structure ของบริษัทควรจะมี 
            Debt Ratio = 20%  และ  WACC = 14.99%

 สมัครตัวแทนประกันชีวิต

13-13) บริษัท XYZ จำกัด กำลังพิจารณาหาโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม โครงสร้างเงินทุนของบริษัทในปัจจุบันมี หนี้สิน และส่วนของผู้ถือหุ้นสามัญ ไม่มีหุ้นบุริมสิทธิ์
บริษัทใช้ CAPM ประมาณการ cost of common equity (kS) อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง(kRF) เท่ากับ 3% ส่วนชดเชยความเสี่ยงของตลาด (market risk premium: (kM - kRF)) เท่ากับ 9% อัตราภาษีเงินได้เท่ากับ 30%  ถ้าค่า Unlevered Beta (bU) ของบริษัท เท่ากับ 1.80 จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น โครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม (Optimal Capital Structure) ของบริษัทควรจะมี Debt Ratio ระดับใด และ WACC เท่ากับเท่าไร
ข้อมูลจากโจทย์:
kRF = 3%
kM-kRF = 9%
bU = 1.80
T = 30%

(1) หา Beta:
bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.80[1+(1-0.30)(0.0/1.0)]
bL = 1.80[1+0]
bL = 1.80(1)
bL = 1.80

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.80[1+(1-0.30)(0.1/0.9)]
bL = 1.80[1+0.0778]
bL = 1.80(1.0778)
bL = 1.94

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.80[1+(1-0.30)(0.2/0.8)]
bL = 1.80[1+0.1750]
bL = 1.80(1.1750)
bL = 2.115

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.80[1+(1-0.30)(0.3/0.7)]
bL = 1.80[1+0.30]
bL = 1.80(1.30)
bL = 2.34

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.80[1+(1-0.30)(0.4/0.6)]
bL = 1.80[1+0.4667]
bL = 1.80(1.4667)
bL = 2.64

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.80[1+(1-0.30)(0.5/0.5)]
bL = 1.80[1+0.70]
bL = 1.80(1.70)
bL = 3.06

bL = bU[1+(1-T)(D/E)]
bL = 1.80[1+(1-0.30)(0.6/0.4)]
bL = 1.80[1+1.050]
bL = 1.80(2.050)
bL = 3.69

(2) หา kS:
kkRF + (kkRF)b
k= 3% + (9%)1.80
k= 3% + 16.20%
k= 19.20%

kkRF + (kkRF)b
k= 3% + (9%)1.94
k= 3% + 17.46%
k= 20.46%

kkRF + (kkRF)b
k= 3% + (9%)2.115
k= 3% + 19.035%
k= 22.03%

kkRF + (kkRF)b
k= 3% + (9%)2.34
k= 3% + 21.06%
k= 24.06%

kkRF + (kkRF)b
k= 3% + (9%)2.64
k= 3% + 23.76%
k= 26.76%

kkRF + (kkRF)b
k= 3% + (9%)3.06
k= 3% + 27.54%
k= 30.54%

kkRF + (kkRF)b
k= 3% + (9%)3.69
k= 3% + 33.21%
k= 36.21%

(3) หา WACC:
WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.0)(5.0%)(1-0.30) + (1.0)(19.20%)
WACC = 0.0% + 19.20%
WACC = 19.20%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.1)(5.5%)(1-0.30) + (0.9)(20.46%)
WACC = 0.385% + 18.414%
WACC = 18.80%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.2)(6.0%)(1-0.30) + (0.8)(22.03%)
WACC = 0.84% + 17.624%
WACC = 18.46%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.3)(7.0%)(1-0.30) + (0.7)(24.06%)
WACC = 1.470% + 16.842%
WACC = 18.31%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.4)(8.0%)(1-0.30) + (0.6)(26.76%)
WACC = 2.240% + 16.056%
WACC = 18.30%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.5)(10.0%)(1-0.30) + (0.5)(30.54%)
WACC = 3.50% + 15.270%
WACC = 18.77%

WACC = Wdkd(1-T) + Wck
WACC = (0.6)(12.0%)(1-0.30) + (0.4)(36.21%)
WACC = 5.04% + 14.484%
WACC = 19.52%


ดังนั้น Optimal Capital Structure ของบริษัทควรจะมี
            Debt Ratio = 40%  และ  WACC = 18.30%

14-5) บริษัท LTA จำกัด มีหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายและอยู่ในมือผู้ถือหุ้นเป็นจำนวน 10 ล้านหุ้น บริษัทมีกำไรสุทธิในปีนี้เท่ากับ 50 ล้านบาท หุ้นสามัญของบริษัทมีราคาตลาดปัจจุบันหุ้นละ 60 บาท บริษัทต้องการซื้อหุ้นสามัญกลับคืนมาจากตลาด 10% การซื้อหุ้นสามัญกลับคืนมานี้คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิ แต่คาดว่า P/E Ratio ของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 5% ให้คำนวณว่าราคาหุ้นสามัญของบริษัท ภายหลังจากที่ซื้อหุ้นกลับคืนมาแล้ว ควรจะมีราคาตลาดเท่าไร

เดิม:
EPS = กำไรสุทธิ / จำนวนหุ้นสามัญ
        = 50,000,000 บาท / 10,000,000 หุ้น
        = 5.00 บาทต่อหุ้น
P/E Ratio = ราคาตลาดต่อหุ้น / EPS
        = 60/5
        = 12
ใหม่: บริษัทซิ้อหุ้นสามัญกลับคืนมา 10%
       = 10,000,000 หุ้น x 10%
       = 1,000,000 หุ้น
ดังนั้น หุ้นที่อยู่ในมือผู้ถือหุ้น
       = 10,000,000 หุ้น - 1,000,000 หุ้น
       = 9,000,000 หุ้น
EPS = กำไรสุทธิ / จำนวนหุ้นสามัญ
        = 50,000,000บาท / 9,000,00 0หุ้น
        = 5.56 บาทต่อหุ้น
P/E Ratio เพิ่มขึ้น 5%
P/E Ratio = 12(1+.05)
               = 12.60
P/E Ratio = ราคาตลาดต่อหุ้น / EPS
12.60      = ราคาตลาดต่อหุ้น / 5.56
ราคาตลาดต่อหุ้น = 12.60 x 5.56 = 70.06 บาท
ราคาตลาดต่อหุ้น 70.06 บาท

16-1) ให้คำนวณหา Nominal and Effective Cost of Trade Credit (1ปี = 365วัน) ภายใต้เงื่อนไข(สมมุติว่าการจ่ายเงินกระทำ ณ วันครบกำหนด หรือวันที่ได้รับส่วนลด)

(e) 3/20, net 70
Nominal Cost of Trade Credit
= 3/(100-3) x 365/(70-20)
= (3/97) x (365/50)
= 3.0928% x 7.30
= 22.5774%
Effective cost = ?
2ND  ICONV  22.5774 
7.30 
CPT ได้ค่า EFF% = 24.90%

(f) 4/20, net 80
Nominal Cost of Trade Credit
= 4/(100-4) x 365/(80-20)
= (4/96) x (365/60)
= 4.1667% x 6.0833
= 25.3474%
Effective cost = ?
2ND  ICONV  25.3474 
6.0833 
CPT ได้ค่า EFF% = 28.19%

 สมัครตัวแทนประกันชีวิต

9 กุมภาพันธ์ 2557

BUS 6012 : การบ้าน ครั้งที่ 2 (09/02/2557)

BUS 6012 การบ้าน ครั้งที่ 2 (09/02/2557)
บทที่ 10 ข้อ 10-1, 10-3, 10-5
บทที่ 11 ข้อ 11-5, 11-6

อาจารย์ผู้บรรยาย รศ.พูนศักดิ์ แสงสันต์ ; 09 กุมภาพันธ์ 2557

คิดโดยใช้เครื่องคำนวณ Texas Instruments BA II Plus

10-1) โครงการ A-1 ใช้เงินลงทุน 700,000 บาท คาดว่าจะได้รับกระแสเงินสดเข้ามาปีละ 240,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี ถ้ากำหนดให้ต้นทุนของเงินลงทุน เท่ากับ 12% ให้พิจารณาว่าสมควรลงทุนในโครงการนี้หรือไม่
(1) Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
(2) Discounted Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
(3) NPV
(4) IRR
(5) MIRR

(1) Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
ปีที่1: 700000-240000 = 460000
ปีที่2: 460000-240000 = 220000
ปีที่3: 220000<240000 = 0.92ปี ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี
Payback Period = 2 + (220,000/240,000)
                         = 2 + 0.92
                         = 2.92 ปี
ยอมรับโครงการ เพราะ PB ไม่เกิน 3 ปี

(2) Discounted Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
ปีที่1: 700000-214286 = 485714
ปีที่2: 485714-191327 = 294387
ปีที่3: 294387-170827 = 123560
ปีที่4: 123560<152524 = 0.81 ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี
Discounted Payback Period  = 3 + (123,560/152,524)
                                            = 3  + 0.81
                                            = 3.81 ปี
ไม่ยอมรับโครงการ เพราะ DPB เกิน 3 ปี

(3) NPV = ?
CF -700000   240,000  
   NPV 12  
CPT: NPV = 165,146.29 บาท
ยอมรับโครงการ เพราะ NPV มีค่าเป็นบวก

(4) IRR = ?
CF -700000   240,000  
   NPV 12  
CPT: NPV = 165,146.29
IRR CPT: IRR = 21.15%
IRR = 21.15%
ยอมรับโครงการเพราะ IRR มีค่ามากกว่า 12%

(5) MIRR = ?

FV = 1524683.37 ; N = 5 ; PV = -700000; I/Y = ?
CPT: I/Y = ? =MIRR = 16.85%
ยอมรับโครงการเพราะ MIRR มีค่ามากกว่า 12%


10-3) บริษัท BB จำกัด กำลังพิจารณาโครงการสองโครงการที่ต้องเลือกทำเพียงโครงการเดียว (Mutually Exclusive Project) โดยมีกระแสเงินสดดังนี้ (หน่วย: พันบาท)
ถ้าโครงการทั้งสองมีระดับความเสี่ยงที่เท่ากัน และมีต้นทุนของเงินทุนเท่ากับ 14%
บริษัท BB จำกัด ควรเลือกทำโครงการใด เพราะเหตุใด

โครงการ X: หา NPV = ? ; IRRx = ?
CF -1400 
400  500
600  900 
NPV 14 
CPT: NPV = 273.47 พันบาท
IRR CPT: IRRx = 22.02%

โครงการ Y: หา NPV = ? ; IRRy = ?
CF -1400 
800  400
3  NPV 14 
CPT: NPV = 116.36 พันบาท
IRR CPT: IRRy = 18.64%
ควรเลือกทำโครงการ X เพราะ IRRx 22.02% มากกว่า IRRy 18.64%


10-5) โครงการ UTV คาดว่าจะมีกระแสเงินสดสุทธิ ดังนี้ (หน่วย: พันบาท)
ถ้ากำหนดให้ต้นทุนของเงินทุน เท่ากับ 10% ให้พิจารณาว่าสมควรลงทุนในโครงการนี้หรือไม่
(f) Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
(g) Discounted Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
(h) NPV
(i) IRR
(j) MIRR

(f) Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
ปีที่1: 3000-1400 = 1600
ปีที่2: 1600-1100 = 500
ปีที่3: 500-(-100) = 600
ปีที่4: 600<1800 = 0.33ปี ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี
Payback Period  = 3 + (600/1,800) 
                          = 3 + 0.33 
                          = 3.33 ปี
ไม่ยอมรับโครงการ เพราะ PB  เกิน 3 ปี

(g) Discounted Payback Period (ยอมรับโครงการที่มีระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)

ปีที่1: 3000-1273 = 1727
ปีที่2: 1727-909   = 818
ปีที่3: 818-75.13  = 742.87
ปีที่4: 742.87<1229= 0.60ปี  ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี
Discounted Payback Period = 3 + (742.87/1,229)
                                           = 3 + 0.60
                                           = 3.60 ปี
ไม่ยอมรับโครงการ เพราะ DPB  เกิน 3 ปี

(h) NPV = ?
CF -3000  
1400   1100  
-100   1800  
NPV 10  
CPT: NPV = 336.11 พันบาท
ยอมรับโครงการ เพราะ NPV มีค่าเป็นบวก

(i) IRR = ?
CF -3000  
1400   1100  
-100   1800  
NPV 10  
CPT: NPV = 336.11 พันบาท
IRR CPT:IRR = 15.21%
IRR = 15.21%
ยอมรับโครงการเพราะ IRR มีค่ามากกว่า 10%

(j) MIRR = ?
ระวัง! มูลค่าโครงการปีที่ติดลบ ต้องหา PV แทน FV

FV = 4994.40 ; N = 3 ; PV = -3075.13; I/Y = ?
CPT: I/Y = ? =MIRR = 17.55%
MIRR = 17.55%
ยอมรับโครงการเพราะ MIRR มีค่ามากกว่า 10%

 สมัครตัวแทนประกันชีวิต

11-5) บริษัท SAT จำกัด กำลังพิจารณาโครงการผลิตสินค้าชนิดหนึ่งออกจำหน่าย โดยบริษัทต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรในราคา 960,000 บาท ค่าขนส่งเครื่องจักร 10,000 บาท ค่าติดตั้งเครื่องจักร 30,000 บาท เครื่ิองจักรมีอายุการใช้งาน 5 ปี มีมูลค่าซาก 100,000 บาท ในการผลิตสินค้าจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคา) ปีละ 360,000 บาท บริษัทต้องลทุนในสินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิเพิ่มขึ้นอีกในตอนเริ่มต้นโครงการเป็นเงิน 160,000 บาท และจะได้รับเงินจำนวนนี้กลับคืนมาเมื่อยุติการทำโครงการ บริษัทคาดว่าสามารถผลิตสินค้าออกขายได้ปีละ 880,000 บาท ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรคิดตามวิธีเส้นตรง บริษัทเสียภาษีไงินได้ในอัตรา 30% ผู้บริหารของบริษัทคาดว่าจะทำโครงการนี้เพียง 4 ปีเท่านั้น และคาดว่าจะขายเครื่องจักรไปได้ในราคา 550,000 บาท บริษัทควรจะทำโครงการนี้หรือไม่ ให้พิจารณาโดยใช้วิธี
(1) Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
(2) Discounted Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
(3) Net Present Value (NPV) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
(4) Internal Rate of Return (IRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
(5) Modified Internal Rate of Return (MIRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)

I) กระแสเงินสดจ่ายลงทุนสุทธิ:

คิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรง
ค่าเสื่อมราคา = (ราคาทุน - มูลค่าซาก) / อายุการใ้ช้งาน
                       = ( 1,000,000 - 100,000) / 5
                       = 900,000 / 5
                       = 180,000 บาทต่อปี

II) กระแสเงินสดจากการดำเนินงานตลอดอายุโครงการ:

** มีกำไรต้องเสียภาษี **

กระแสเงินสดรับ = 550,000 - 81,000 = 469,000 บาท

III) กระแสเงินสดของปีสุดท้าย(ปีที่ 5):

IV) กระแสเงินสดสุทธิของโครงการ:
ปีที่1: 1,160,000-418,00 = 742,000
ปีที่2: 742,000-418,000 = 324,000
ปีที่3: 324,000<418,000 = 0.78 ปี ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี

ปีที่1: 1,160,000-366,667 = 793,333
ปีที่2: 793,333-321,637 = 471,696
ปีที่3: 417,696-282,138 = 189,558
ปีที่4: 189,558<247,490 = 0.77 ปี ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี

V) ผลการวิเคราะห์โครงการ:

(1) Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
Payback Period = 2 + (324,000 / 418,000)
                         = 2 + 0.78
                         = 2.78 ปี
ยอมรับโครงการ เพราะ Payback Period ไม่เกิน 3 ปี

(2) Discounted Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
Discounted Payback Period = 3 + (189,558 / 247,490)
                                           = 3 + 0.77
                                           = 3.77 ปี
ไม่ยอมรับโครงการ เพราะ Discounted Payback Period เกิน 3 ปี

(3) Net Present Value (NPV) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
CF -1160000   418000  
  710000 
NPV 14  
CPT: NPV = 426,683.49 บาท
ยอมรับโครงการเพราะ NPV มีค่าเป็นบวก

(4) Internal Rate of Return (IRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
CF -1160000   418000  
  710000 
NPV 14  
CPT: NPV = 426,683.49 บาท
IRR CPT: IRR = 27.32%
ยอมรับโครงการเพราะ IRR มีค่ามากกว่า 14%

(5) Modified Internal Rate of Return (MIRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
FV = 3055023.54 ; N = 5 ; PV = -1160000 ;
CPT: I/Y = ? = MIRR = 21.37%
ยอมรับโครงการเพราะ MIRR มีค่ามากกว่า 14%


11-6) บริษัท MTT จำกัด กำลังพิจารณาโครงการผลิตสินค้าชนิดหนึ่งออกจำหน่าย โดยบริษัทต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรในราคา 940,000 ค่าขนส่งเครื่องจักร 10,000 บาท ค่าติดตั้งเครื่องจักร 30,000 บาท เครื่องจักรมีอายุการใช้งาน 5 ปี มีมูลค่าซาก 180,000 บาท ในการผลิตสินค้าจะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคา) ปีละ 400,000 บาท บริษัทต้องลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิเพิ่มขึ้นอีกในตอนเริ่มต้นโครงการเป็นเงิน 140,000 บาท และจะได้รับเงินจำนวนนี้กลับคืนมาเมื่อยุติการทำโครงการ บริษัทคาดว่าสามารถผลิตสินค้าออกขายได้ปีละ 850,000 บาท ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักรคิดตามวิธีเส้นตรง บริษัทเสียภาษีเงินได้ในอัตรา 30% ผู้บริหารของบริษัทคาดว่าจะทำโครงการนี้เพียง 4 ปีเท่านั้น และคาดว่าจะขายเครื่องจักรไปได้ในราคา 440,000 บาท บริษัทควรจะทำโครงการนี้หรือไม่ ให้พิจารณาโดยใช้วิธี
(1) Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
(2) Discounted Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
(3) Net Present Value (NPV) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
(4) Internal Rate of Return (IRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
(5) Modified Internal Rate of Return (MIRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)

I) กระแสเงินสดจ่ายลงทุนสุทธิ:
คิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรง
ค่าเสื่อมราคา = (ราคาทุน - มูลค่าซาก) / อายุการใ้ช้งาน
                       = ( 980,000 - 180,000) / 5
                       = 800,000 / 5
                       = 160,000 บาทต่อปี

II) กระแสเงินสดจากการดำเนินงานตลอดอายุโครงการ:

 ** มีกำไรต้องเสียภาษี **


กระแสเงินสดรับ = 440,000 -30,000 = 410,000 บาท

III) กระแสเงินสดของปีสุดท้าย(ปีที่ 5):

IV) กระแสเงินสดสุทธิของโครงการ:
ปีที่1: 1,120,000-363,000 = 757,000
ปีที่2: 757,000-363,000    = 394,000
ปีที่3: 394,000-363,000    = 31,000
ปีที่4: 31,000<363,000     = 0.09 ปี ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี
ปีที่1: 1,120,000-318,421 = 801,579
ปีที่2: 801,579-279,317    = 522,262
ปีที่3: 522,262-245,015    = 277,247
ปีที่4: 277,247-214,925    = 62,322
ปีที่5: 62,322<580,000     = 0.11ปี  ** ไม่ันับจำนวนปี หาเศษของปี

V) ผลการวิเคราะห์โครงการ:
(1) Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี)
Payback Period = 3 + (31,000/363,000)
                        = 3 + 0.09
                        = 3.09 ปี
ไม่ยอมรับโครงการ เพราะ Payback Period เกิน 3 ปี

(2) Discounted Payback Period : (ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 3 ปี อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
Discounted Payback Period = 4 + (62,322/580,000)
                                           = 4 + 0.11
                                           = 4.11 ปี
ไม่ยอมรับโครงการ เพราะ Discounted Payback Period เกิน 3 ปี

(3) Net Present Value (NPV) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
CF -1120000   363000  
  580000 
NPV 14  
CPT: NPV = 912,000 บาท
ยอมรับโครงการเพราะ NPV มีค่าเป็นบวก

(4) Internal Rate of Return (IRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
CF -1120000   363000  
  580000 
NPV 14  
CPT: NPV = 912,000 บาท
IRR CPT:IRR = 21.99%
ยอมรับโครงการเพราะ IRR มีค่ามากกว่า 14%

(5) Modified Internal Rate of Return (MIRR) : (อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ 14%)
FV = 2616467.81 ; N = 5 ; PV = -1120000 ;
CPT: I/Y = ? = MIRR = 18.49%
ยอมรับโครงการเพราะ MIRR มีค่ามากกว่า 14%


อยากรู้เรื่องทฤษฎีการตลาดกับผู้เชี่ยวชาญ ผมแนะนำ M.B.A. (Marketing) Ramkhamkaeng .. แต่ถ้าอยากรู้ว่าเรียนการตลาดแล้วจะประยุกต์ใช้กับธุรกิจประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินได้อย่างไร คุณต้องมีโค้ชแนะนำ ครับ

วางแผนการเงินกับ #finadvisor #ความมั่งคั่งเริ่มต้นที่นี่ finadvisor.co
โค้ชส่วนตัว ช่วยวางแผน

×
News