ตัวอย่าง รายงานวิชา RAM 6003 การศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา เป็นความคิดเห็นและความเข้าใจส่วนบุคคล ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการทำรายงานส่งอาจารย์เท่านั้น ไม่อนุญาตให้สำเนา/ทำซ้ำ เพื่อนำไปส่งในวิชา RAM 6003 หากมีการกระทำขอให้สอบไม่ผ่าน _/\_
ตัวอย่าง รายงานฉบับที่ 1 เรื่อง "เตรียมตัว ก่อนตาย"
“ เตรียมตัว ก่อนตาย ”
ตายแล้วไปไหน ไม่มีใครรู้ หลายคนไม่อยากจะนึกถึงเพราะความตายเป็นเรื่องที่น่ากลัวและเป็นเรื่องไม่ดีที่จะต้องมานึกถึงวันตายของตัวเอง
แต่ความจริงแล้ว การลองคิดคำนวณถึงงบประมาณที่จะต้องใช้ในการจัดงานศพ
กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรจะทำ เพื่อจัดเตรียมงบประมาณไว้จำนวนหนึ่งสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในงานศพของตนเอง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกหลานญาติมิตรที่อยู่เบื้องหลังไม่ต้องเดือดร้อน จึงเป็นที่มาของการจัดเตรียมงบประมาณส่วนหนึ่งไว้สำหรับการดังกล่าวในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
ปรากฏให้เห็นผ่านการทำประกันชีวิตหรือกองทุนฌาปนกิจต่างๆ ประมวลกฎหมายแพ่งละพาณิชย์ มาตรา 15
บัญญัติหลักเกณฑ์การเริ่มและการสิ้นสุดสภาพบุคคลไว้ว่า “สภาพบุคคลย่อมเริ่มแต่เมื่อคลอด
แล้วอยู่รอดเป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ. 2525 ได้อธิบายว่า “การตาย หมายถึงสิ้นใจ สิ้นชีวิต
ไม่เป็นอยู่ต่อไป สิ้นสภาพของการมีชีวิต” ทุกวันนี้คิดหรือวางแผนก่อนตายหรือยัง?
จากนาทีสิ้นลมถึงเชิงตะกอน ต้องจ่ายอะไรและเท่าไร?
เมื่อความตายเกิดขึ้นแล้ว
สิ่งที่ผู้ที่ยังอยู่ต้องทำให้แก่ผู้จากไปนั่นก็คือ “งานศพ” อาจจะเป็นงานศพหรูหรา หรืองานศพแบบธรรมดา ตามแต่เจ้าภาพต้องการ
แต่รู้ไหมว่า งานศพแต่ละงานนั้น มีค่าใช้จ่ายในเกือบจะทุกขั้นตอน ดังนี้
เมื่อใกล้สิ้นใจ
สิ้นชีวิต
เตรียมค่าใช้จ่ายในการรักษากรณีเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
กำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เตรียมตัวเพื่อป้องกันการสับสนเมื่อถึงเวลา กำหนดวัดที่จะจัดงาน
จัดเตรียมสถาน ประมาณการค่าใช้จ่ายและรวบรวมเงินให้เพียงพอ ใช้เงินจากที่ไหน ใครจะออกเท่าไร
คิดงานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกำหนดผู้รับผิดชอบ
เมื่อสิ้นใจ
สิ้นชีวิต
เมื่อสิ้นใจ ค่าใช้จ่ายต่างๆจะเริ่มต้นขึ้นประกอบด้วย
ค่าธรรมเนียมทำใบมรณะบัตร ค่าบริการอาบน้ำ แต่งตัวศพประมาณ 300 บาท
ค่าฉีดฟอร์มาลีน 950 บาท ค่าฝากร่างผู้เสียชีวิตไว้ในห้องเก็บศพของทางโรงพยาบาล
ค่าเช่า 300 บาทต่อวัน (ราคานี้เป็นราคาของโรงพยาบาลรัฐบาลตามระเบียบกระทรวงการคลัง) แต่ถ้าใช้บริการของทางภาคเอกชน ค่าฉีดฟอร์มาลีน
พร้อมแต่งหน้าศพจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทขึ้นไป
แต่หากเป็นศพที่ประสบอุบัติเหตุหรือศพติดเชื้อ
ราคาจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณยาที่ใช้ในการฉีดศพ ค่าโลงศพ เช่น โลงไม้ยาง โลงไม้เนื้อแข็ง โลงไม้อัด
โลงมุก โลงกระจก นอกจากวัสดุแล้ว ลวดลายตกแต่งโลงศพก็ยังมีให้เลือกมากมาย
ทั้งแบบเทพพนม แบบแกะสลัก ฯลฯ ราคาของโลงศพประมาณ 3,000
- 200,000 บาท การเคลื่อนย้ายศพมีค่าใช้จ่ายประกอบด้วย
ค่ารถเคลื่อนย้ายศพกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 1,000 บาท ค่าแรงคนงานเคลื่อนย้ายศพ 500 บาทต่อคน
ค่าแรงคนงานบรรจุศพ 500 บาทต่อคน ค่าอุปกรณ์ชุดรับศพ
(ธูป+เทียน+กระถางธูปทองเหลือง+เหรียญบาท) ปัจจัยถวายพระตามศรัทธา
พิธีในวันแรก
(รดน้ำศพ)
เมื่อเคลื่อนย้ายศพมาถึงวัดเพื่อทำพิธีรดน้ำศพจะมีค่าใช้จ่าย
ค่าอุปกรณ์ชุดรดน้ำศพ (พวงมาลัยคล้องมือ, กลีบกุหลาบ,
ดอกมะลิ) 150 บาท ดอกไม้ ธูปเทียน, ผ้าคลุมศพผืนละ
350 บาท ใช้ผ้าห่มคลุมศพ, ที่รดน้ำศพ พร้อมพานรอง, น้ำอบไท, ธูปยาวหน้าศพ, เทียนใหญ่หน้าศพ,
ธูปดอกเคารพศพ, ตะเกียง, น้ำมันก๊าด, ไฟแช็ก, กระถางธูปหน้าศพ,
สายสิญจน์ ค่าดอกไม้ประดับหน้าศพอยู่ในช่วง 8,000 - 15,000 บาท พวงหรีดดอกไม้สดมีราคาตั้งแต่ประมาณ
500 - 3,000 บาท
พวงหรีดดอกไม้แห้งมีราคาตั้งแต่ 500 - 1,500 บาท
และพวงหรีดที่ทำจากผ้านั้นมีราคาที่ประมาณ 300 - 1,500 บาท ค่าอัดรูปภาพผู้ตาย
พร้อมเขียนวันเกิด วันตาย กรอบรูปมาตรฐาน 500 - 1,500 บาท
ค่าเจ้าหน้าที่จัดการพิธีรดน้ำศพ 1,000 บาท ค่าทำพิธีเชิญวิญญาณและบรรจุศพลงโลง
ค่าเครื่องดื่มเลี้ยงแขก (น้ำเปล่า) ราคา 2 - 3 บาทต่อแก้ว
พิธีสวดบำเพ็ญกุศล
ในการสวดอภิธรรมแต่ละคืนจะมีค่าใช้จ่ายดังนี้ ค่าบำรุงศาลา
หากเป็นวัดขนาดเล็ก 500 บาทต่อคืนขึ้นไป ส่วนวัดขนาดใหญ่ 1,000 บาทต่อคืน ถ้าศาลาติดเครื่องปรับอากาศ 2,500
บาทต่อคืน ค่าเครื่องถวายพระสวดอภิธรรมรวมทั้งดอกไม้ธูปเทียนถวายพระประมาณ 1,000 บาทต่อคืน ซึ่งยังไม่นับรวมค่าถวายสังฆทาน หรือติดกัณฑ์เทศน์ ค่าอุปกรณ์ต่าง
ๆ ที่จำเป็น เช่น โต๊ะ เตียง เก้าอี้ เครื่องเสียง ค่าเจ้าหน้าที่ศาลาวันละ 500 บาท ค่าเจ้าหน้าที่จัดการพิธี 1,000 บาท ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร-เครื่องดื่มสำหรับเลี้ยงแขกหลังการสวดพระอภิธรรมในแต่ละคืนประมาณ
2,000 - 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่มาร่วมงาน
แต่หากเจ้าภาพมีฐานะเลี้ยงเป็นโต๊ะจีนก็จะเริ่มต้นที่ราคา 5,000 - 10,000 บาท
พิธีทำบุญเลี้ยงเพลพระ
(วันฌาปนกิจ)
ในขั้นตอนนี้
มีค่าใช้จ่ายที่เหมือนกับพิธีสวดบำเพ็ญกุศลเกือบทั้งหมด
จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้แก่ ค่าภัตตาหารสำหรับเลี้ยงพระสงฆ์
ค่าอาหารมื้อเที่ยงสำหรับเลี้ยงแขกผู้มาร่วมงานซึ่งจะแตกต่างจากอาหารสำหรับเลี้ยงแขกในเวลากลางคืน
จึงอาจต้องใช้งบประมาณที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ก็จะมีค่าอุปกรณ์ที่ต้องจัดเตรียมเพิ่มเติม เช่น ผ้าไตรเต็มไตรละ 450
บาท ดอกไม้ถวายพระกำละ 25 บาท
พิธีฌาปนกิจ
พิธีฌาปนกิจจะมีค่าใช้จ่าย ค่าดอกไม้ตกแต่งเมรุเผาศพราคา
8,000 - 95,000 บาท ค่าผ้าไตร ผ้าสบงและเครื่องไทยธรรมราคา 1,500
- 3,000 บาทต่อชุด ค่าดอกไม้จันทน์ช่อประธานช่อละ 20 บาท ค่าดอกไม้จันทน์ 10 บาทต่อดอก ค่าของชำร่วยพร้อมติดสติ๊กเกอร์ราคา
20 บาทต่อชิ้น ค่าเครื่องดื่มเลี้ยงแขกในงานพิธีฌาปนกิจ
(น้ำเปล่า) ราคา 2 – 3 บาทต่อแก้ว ค่าบำรุงเมรุ 4,000 บาท ค่าน้ำ ค่าไฟในวันเผา 2,000 บาท ค่าเจ้าหน้าที่วัด
400 บาทต่อคน
พิธีเก็บอัฐ
ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นได้แก่ ชุดเก็บอัฐิ(พวงมาลัย
กลีบกุหลาบ ดอกมะลิ) 100 บาท ค่าภัตตาหารแบบปิ่นโตสำหรับถวายพระสงฆ์
250 บาทต่อเถา ค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้พิธีแปรธาตุ เช่น
เงินเหรียญบาท และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเก็บอัฐิ เช่น โกศมุขราคา 195 บาท โกศเบญจรงค์ราคา
630 บาท ชุดลุ้งอังคาร(ผ้าขาว ผ้าห่อลุ้งอังคาร ดอกไม้ น้ำอบไทย)ราคา 1,000 - 2,000 บาท เงินเหรียญบาทสำหรับโปรยทาน เป็นต้น
บทสรุป
นับจากขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของการจัดการงานศพ
โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ ประมาณ 100,000 - 200,000 บาท
ขึ้นอยู่กับจำนวนวันในการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ โดยส่วนใหญ่จะนิยม 3 วัน หรือ 5 วัน ซึ่งรายละเอียดในการจัดการงานศพของสมาชิกในแต่ละครอบครัว
ย่อมมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ ประการ เช่น การเตรียมการแต่เนิ่นๆ การเตรียมการสั่งเสียก่อนจากไป ความมั่นคง
ความพร้อม และร่วมมือร่วมใจ สามัคคีของลูกหลาน เป็นต้น ดังนั้นก่อนตาย
สามารถเตรียมความพร้อมและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นหลังความตายมาเยือน จัดเตรียมงบประมาณไว้จำนวนหนึ่งสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในพิธีศพของตนเอง
ผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิต วันนี้คุณเตรียมตัว ..
ก่อนตายหรือยัง ?
เอกสารอ้างอิง
รุ่งนภา สดงาม (แม่แก้ว ออมสินดอทเน็ต). (2556). ทำประกันชีวิตให้คุ้มค่าไม่ยาก
(พิมพ์ครั้งที่
4). นนทบุรี: ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์.
จัดงานศพ. (2556). ค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2556,
จาก การเตรียมการและการจัดงานศพ
คุณพ่อสาลี่
รังษีภาณุรัตน์ เว็บไซต์: http://www.crma32.net/
index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=1547136
จัดงานศพ. (2556). ค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2556,
จาก มติชนออนไลน์
เว็บไซต์: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326706813&grpid=&catid=
ฌาปนกิจ. (2556). ค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2556, จาก
ฌาปนกิจสงเคราะห์ ทอ.,
วัดพระศรีมหาธาตุ
กรุงเทพฯ เว็บไซต์: http://cremation.rtaf.mi.th/page.aspx?p=45
หีบศพ. (2556).
ค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2556, จาก สุริยา ฟิวเนอรัล
เว็บไซต์: http://www.suriyafuneral.com/หีบศพ
โลงศพ. (2556).
ค้นเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2556, จากโลงศพ ซุ่นเฮงหลี
เว็บไซต์: https://www.facebook.com/permalink.php?id=113689905420553
&story_fbid=232975143492028
* การอ้างอิงเอกสาร (References)
ผู้ส่งบทความจะต้องเขียนอ้างอิงเอกสารอื่นโดยจัดให้อยู่ในรูปแบบ Harvard Style
ตัวอย่าง รายงานฉบับที่ 2 "ประสบการณ์ ธุรกิจขายหนังสือออนไลน์"
“ประสบการณ์ ธุรกิจขายหนังสือออนไลน์”
ความรู้ที่สั่งสมประสบการณ์มา 10 กว่าปีคือความรู้ในธุรกิจขายหนังสือออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ RUBOOK.com
ด้วยแรงบันดาลใจที่ว่า
เราเป็นเด็กต่างจังหวัดมีเพื่อนฝูงอยู่ต่างจังหวัดมากมาย มักจะฝากซื้อหนังสือบ้าง
ชีทบ้าง ตำราเรียน ข้อสอบต่างๆ อยู่เป็นประจำ จึงเกิดไอเดียว่า
ถ้าทำเวบไซต์ขายหนังสือ ชีทข้อสอบ หรือตำราเรียน อื่นๆ น่าจะเป็นช่องทางหนึ่ง
สำหรับผู้ที่ศึกษาในส่วนภูมิภาคจะได้มีโอกาสไปด้วย กอปรกับเคยเป็นศิษย์เก่ารามคำแหง
ตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือน้องๆ
เพื่อนๆ พี่ๆ ชาวรามคำแหง ทุกๆ คน ให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
ได้ทุ่มเทออกแบบและพัฒนาระบบการขายสินค้าออนไลน์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
ซึ่งเป็นจุดกำเนิดธุรกิจนี้มาทั้งแต่ปี 2545
สมัยเริ่มธุรกิจในปีแรกๆ ความไว้วางใจในการขายหนังสือออนไลน์ยังเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับคนไทยในสมัยนั้น
การที่จะทำให้คนต่างจังหวัด 1
คนสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ต้องอธิบาย ต้องรับโทรศัพท์จากลูกค้า
จะขอยกตัวอย่างประสบการณ์ที่ประทับใจมากๆกับลูกที่มาใช้บริการในปีแรกๆ
ลูกค้าอยู่จังหวัดยะลาสั่งซื้อหนังสือในราคา 100 บาท
หลังจากโอนเงินค่าสินค้ามาแล้ว สมัยนั้นโทรศัพท์ยังเป็นการโทรทางไกล
ค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าโทรมาหาเรามากกว่าค่าหนังสือที่ซื้อเสียอีก
ลูกค้าบอกว่าโทรมาแล้วได้คุยกับคนขายแล้วรู้สึกสบายใจว่าคนขายมีตัวตนอยู่จริง
ซึ่งกว่าจะทำให้ลูกค้าซื้อหนังสือออนไลน์ผ่านเว็บไซต์
ในสมัยนั้นเหนื่อยมากๆ แต่ในความเหนื่อยเราก็ภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยให้ความรู้แก่คนไทยหลายๆคนได้เข้าใจกระบวนการซื้อขายสินค้าออนไลน์
ความรู้ดังกล่าวนั้นได้มาจากมีโอกาสอยู่ใกล้แหล่งที่ผลิตและขายหนังสือในย่านหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
เห็นโอกาสทางธุรกิจและลงมือทำทันที การได้ลงมือทำ ทำให้ได้เรียนรู้ข้อผิดผลาดนำมาปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วพัฒนาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้กับลูกค้า ปัจจุบันการขายหนังสือออนไลน์ได้พัฒนาไปค่อนข้างมากมีช่องทางการขายมากขึ้น
ตั้งแต่เว็บไซต์, Smart Phone, Tablet,
Social Media เป็นต้น ระบบการชำระเงินที่สะดวกสบาย เช่น ธนาณัติ, ธนาณัติออนไลน์,
โอนเงินผ่านธนาคาร, โอนเงินผ่านตู้ ATM, การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต,
บัตรเงินสด เป็นต้น และมีทางเลือกมากขึ้น การพัฒนาการของหหนังสือเป็นรูปแบบ
E-Book ซึ่งลดต้นทุนการจัดพิมพ์ การกระจายและการจัดส่ง เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การขยายตัวของธุรกิจขายหนังสือออนไลน์ยังมีโอกาสเติบโตไปได้อีกมาก
การพัฒนาโมเดลธุรกิจขายหนังสือออนไลน์ให้ตอบสนองความต้องการ(Need) ของลูกค้า จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นว่าแม้กระทั่งผู้ผลิตเองหลายรายเริ่มเข้ามาพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้น
ข้อคิดในเรื่องนี้คือโอกาสอยู่รอบๆตัวเรา
ปัญหาคนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามสิ่งที่เห็นด้วยความเคยชินไม่คิดนอกกรอบทำให้ไม่เห็นโอกาส
และเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือการลงมือทำ คนไทยส่วนมากคิดแล้วเก็บไม่ลงมือทำ
เมื่อไม่ลงมือทำก็ไม่มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ
ตัวอย่างไฟล์รายงานฉบับที่ 2 "ประสบการณ์ ธุรกิจขายหนังสือออนไลน์"
แนะนำวิธีการใช้งาน smallseotools.com จากเว็บ www.thaiseoboard.com หลังจากเขียนบทความเสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบบทความว่าซ้ำหรือเหมือนคนอื่นมากน้อยขนาดไหน โดยสามารถตรวจสอบได้ครั้งละ 1500 คำ ด้วยเว็บ http://smallseotools.com/plagiarism-checker/
วิธีใช้งาน
1.1 ให้คัดลอกและวางบทความลงในช่องด้านล่าง
1.2 จากนั้นกดที่ปุ่มสีเขียว "Check for plagiarism"
แสดงผลลัพธ์จะแสดง % ตั้งแต่ 0 ถึง 100% โดยถ้า % ยิ่งสูงแสดงว่าบทความไม่ซ้ำหรือไม่เหมือนกับคนอื่น
ตัวอย่างการตรวจสอบบทความ
ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบ