29 พฤศจิกายน 2557

BUS 7017 : Business Strategy Game - Private-Label Production



BUS 7017 : Business Strategy Game : The Business Strategy Game (bsg-online.com)

DECISION ENTRIES : Private-Label Production
TIP : ต้องพิจารณาคุณภาพ S/Q Rating ที่อุตสาหกรรมยอมรับได้ และตั้งราคาขายต่ำสุด ขายได้ก่อนราคาเป็น Key Factor ที่จะทำให้ขายได้หรือขายไม่ได้



สินค้าในเกมส์มี 2 แบบ คือ Brand และ P-Label
ผลิตแบบ P-Label  หรือ OEM หรือ House Brand คือผลิตและส่งขายให้ห้างติดตราสินค้าชื่อห้าง ภายใต้เงื่อนไขคุณภาพและราคาเป็นหลัก

S/Q Rating of P-Label Pairs Produced : ผลิตให้คุณภาพที่อุตสาหกรรมรับได้ (ไม่เหมือนกับ S/Q Rating ของ Brand) เช่น Global Minimum S/Q Rating ต้องการ 4 ดาว แต่ตอนนี้ N.A. Plant และ A-P Plant ผลิตได้ 3 ดาว ยังส่งไปขายไม่ได้เพราะไม่ตรงกับคุณภาพที่ต้องการตามที่อุตสาหกรรมยอมรับได้


Bid Price : ตั้งราคาขายต่ำสุดขายได้ก่อน ตราบเท่าที่ยังมีความต้องการเหลืออยู่ ตลาด P-Label จะแยกออกจากตลาดสินค้า Brand


Private-Label Demand Forecast : ปริมาณความต้องการในแต่ละทวีป ถ้าส่งเกินก็จะขายไม่ได้


ตัวอย่าง N.A. Market ต้องการสินค้า 800 คู่ และคุณภาพ 4 ดาว มีผู้แข่งในตลาด 3 ทีมคือ A, B และ C

ทีม C ขายได้ก่อน 700 คู่ ทั้งหมดเพราะราคาถูกและคุณภาพตรงตามความต้องการ
ทีม A ขายได้ 100 คู่ เพราะราคาสูงกว่าทีม C ถึงแม้ว่าจะมีคุณภาพเท่ากัน
ทีม B ขายไม่ได้ เพราะคุณภาพไม่ได้ตามความต้องการ ถึงแม้ราคาจะถูกที่สุด
** P-Label จะไม่มีการเก็บสต๊อก เหลือทิ้งทั้งหมด  เป็นต้นทุนจม (Sunk Cost) มีความเสี่ยง

กรณีถ้าทีม B ผลิตได้ 5 ดาว ตั้งราคาขาย $32.00 ขายได้  ทำไปเพื่อ? เพราะตลาดต้องการคุณภาพ 4 ดาว ทำให้ต้นทุนสูงเสียโอกาส คือ Cost เพิ่ม และ Profit ไม่เพิ่ม

ถ้าต้องการทำตลาด P-Label  สิ่งที่ต้องปรับคือ S/Q Rating  ต้องปรับให้ตรงกับ Global Minimum S/Q Rating
 Superior Materials Usage : ปรับเพิ่ม % วัตถุดิบชั้นดี
 Enhanced Styling / Features : ปรับลงทุนเพิ่มเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต


สิ่งที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Brand และ P-Label คือกำลังการผลิต กำลังการผลิตที่เหลือจากผลิต Brand จะมาปรากฎที่ P-Label ทั้ง Regular และ Overtime


ถ้าไม่ต้องการให้กำลังการผลิตมาใช้ที่ P-Label ทำได้โดยเพิ่มกำลังการผลิต Brand ทั้งหมด


มีกำลังการผลิตเหลืออยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือต้นทุนคงที่(Fixed Cost) เกิดขึ้น แนะนำให้นำกำลังการผลิตที่เหลืออยู่มาให้ประโยชน์ด้วย เช่น ทวีปเอเซียมีกำลังการผลิตเหลือ Regular เท่ากับ 867 และ Overtime เท่ากับ 800 Average Production Cost เท่ากับ $19.62 ต่อคู่ ตลาด A-P Market มีความต้องการ 2,400 คู่
เพื่อใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตที่เหลืออยู่ตั้งราคาขายเท่ากับต้นทุน ทำให้ Fixed Cost ลดลง และช่วยกันตลาดไม่ให้คู่แข่งเข้ามาเล่นในตลาด P-Label ได้

TIP: ถ้ามีกำลังการผลิตเหลืออยู่ ให้นำมาใช้ประโยชน์ด้วย

ในกรณีที่ไม่มีคู่แข่งเข้ามาในตลาด P-Label การตั้งราคาขายสามารถตั้งราคาต่ำกว่า Wholesale Price $5

00.00-22:20

เมนู อื่นๆ:
Business Strategy Game - Online
Decisions / Reports
Sale Forecast
Branded Production

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อยากรู้เรื่องทฤษฎีการตลาดกับผู้เชี่ยวชาญ ผมแนะนำ M.B.A. (Marketing) Ramkhamkaeng .. แต่ถ้าอยากรู้ว่าเรียนการตลาดแล้วจะประยุกต์ใช้กับธุรกิจประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินได้อย่างไร คุณต้องมีโค้ชแนะนำ ครับ

วางแผนการเงินกับ #finadvisor #ความมั่งคั่งเริ่มต้นที่นี่ finadvisor.co
โค้ชส่วนตัว ช่วยวางแผน

×
News