5 ตุลาคม 2556

BUS 6010 : เอกสารบรรยาย Micro(3) 02/10/2556

ครั้งที่ี 2  02/10/2556 เศรษฐศาสตร์จุลภาค (Micro) รศ.อติ 


บทที่ 3 ความยืดหยุ่น
--------------------------
ความยืดหยุ่น
- ความยืดหยุ่นของอุปสงค์
- ความยืดหยุ่นของอุปทาน
- ประโยชน์จากการศึกษาเรื่องความยืดหยุ่น


ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ (Elasticity of demand)
หมายถึง เปอร์เซนต์หรืออัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณสินค้าที่มีผู้ต้องการซื้อในขณะใดขณะหนึ่ง เมื่อตัวแปรอื่นๆ ที่เป็นตัวกำหนดปริมาณเสนอซื้อนั้นๆ เปลี่ยนแปลงไปหนึ่งเปอร์เซนต์

Ed  =   เปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงปริมาณเสนอซื้อ
             เปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า

Ed   =  ∆Q x P   =  
Q2 - Q1 x P1
            ∆P    Q        P2 - P1    Q1

 Ed  =  dQ x P1

            dP    Q1

การคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา

1). ความยืดหยุ่นแบบจุด (Point elasticity of demand)
เป็นการคำนวนณหาค่าความยืดหยุ่น ณ จุดใดจุดหนึ่งบนเส้นอุปสงค์ซึ่งเป็นกรณีที่ราคาเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แต่ในทางทฤษฎีถือว่ามีผลทำให้ปริมาณเสนอซื้อเปลี่ยนแปลงไปด้วย
สูตรที่ใช้ในการคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นแบบจุดคือ

Ed  =   ∆Q x P   =  Q2 - Q1 x P1
            ∆P    Q        P2 - P1    Q1

ตัวอย่างเช่น
กำหนดให้ Qx = 600 - 50 Px  ถ้าราคาสินค้า x เปลี่ยนจากชิ้นละ 5 บาท เป็น 6 บาท จงคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่่อราคาสินค้า x ณ ระดับราคา 5 บาท

Px1 =  5 บาท  : Qx1  = 600 - 50(5)
                             = 600 - 250
                             = 350
ณ ระดับ
Px2  = 6 บาท : Qx2  = 600 - 50(6)
                            = 600 - 300
                            = 300
จากสูตร
 Ed  =  Q2 - Q1 x P1
             P2 - P1    Q1
Ed   =  300 - 350  x    5 
               6 - 5           350 
        =  -50 ( 1 )
                    70 
        = -0.71

ถ้าราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงไปน้อยมากจนมีค่าใกล้ 0 เราสามารถใช้วิธีอนุพันธ์ โดยการหาค่าความยืดหยุ่นได้ดังนี้ 

Ed   =   dQx x Px
             dPx    Qx

จากสมการอุปสงค์ต่อราคา Qx = 600 - 50Px ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา เมื่อราคาสินค้า X เท่ากับ 5 คำนวณได้ดังนี้

Ed   =  d(600 - 50Px)  x  Px
            dPx                  Qx
        =  d(-50Px)  x  Px
            dPx          Qx       

        =  -50 x        5            
                       600 - 50(5)
        = -0.71

คำอธิบาย:

ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาเมื่อราคาสินค้า X เท่ากับ คือ 0.71 (ไม่คิดเครื่องหมายลบ) ซึ่งแสดงว่าถ้าราคาสินค้า X เปลี่ยนแปลงไปร้อยละ 1 ปริมาณความต้องการซื้อสินค้า X จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้ามเท่ากับร้อยละ 0.71

ในกรณีที่สมการอุปสงค์ประกอบด้วยตัวแปรอิสระหลายตัว เช่น Qx = 2000 - 100Px + 150Py + 300Y + 200A เราสามารถคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นของเส้นอุปสงค์ต่อราคาได้โดยวิธีอนุพันธ์ย่ิอย

Ed  =  ∂Qx  x  Px
           ∂Px      Qx

2). ความยืดหยุ่นแบบช่วง (Are elasticity of demand) 
เป็นการคำนวณค่าความยืดหยุ่น ณ ช่วงใดช่วงหนึ่งบนเส้นอุปสงค์

สูตรที่ใช้ในการคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นแบบช่วงคือ

Ed  =   ∆Q/Q
            ∆P/P

               Q2 - Q1    
            (Q2 + Q1) /2
       =  ------------------
                 P2 - P1    
             (P2 + P1) /2

Ed  =  Q2 - Q1  x  P2 + P1
           Q2 + Q1     P2 - P1

Ed  =  
∆Q   x  P2 + P1   
           ∆P       Q2 + Q1 

Ed  =  dQ  x  P2 + P1
           dP      Q2 + Q1

ตัวอย่างเช่น
สมมติให้ราคาสินค้า X 1ลดลงจาก 10 บาท เป็น 6 บาท ปริมาณซื้อที่ผู้บริโภคมีต่อสินค้า X เพิ่มขึ้นจาก 1,400 หน่วย เป็น 1,800 หน่วย เราสามารถคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์จากราคา 10 บาท เป็น 6 บาท ดังนี้

Ed  =  Q2 - Q1  x  P2 + P1
           Q2 + Q1     P2 -  P1
       
       =  1,800  - 1,400   x  6 + 10
            1,800 + 1,400      6 - 10 
       
       =     400    x   16
            3,200       (-4)
    
       =  -0.5

คำอธิบาย:
ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา = -0.5 หมายความว่าในช่วงราคา 10 บาท ถึง 6 บาท โดยเฉลี่ยการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า X ร้อยละ 1 จะมีผลทำให้อุปสงค์ต่อสินค้า X เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้ามเท่ากับร้อยละ 0.5 เมื่อกำหนดให้ตัวแปรอื่นๆคงที่

ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา

Ed >1 เรียกกรณีนี้ว่าอุปสงค์มีความยืดหยุ่นมาก (Relatively elastic) หมายความว่า เปอร์
เซนต์การเปลี่ยนแปลงของปริมาณเสนอซื้อมากกว่าเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า

Ed < 1 เรียกกรณีนี้ว่าอุปสงค์มีความยืดหยุ่นน้อย (Relatively inelastic) หมายความว่าเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงของปริมาณเสนอซื้อน้อยกว่าเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า

Ed = 1 เรียกกรณีนี้ว่าอุปสงค์มีความยืดหยุ่นคงที่ (Unitary elastic) หมายความว่า เปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงของปริมาณเสนอซื้อเท่ากับเปอร์เซนต์การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า

Ed = 0 เรียกกรณีนี้ว่าอุปสงค์ไม่มีความยืดหยุ่นเลยหรือไม่ยืดหยุ่นอย่างสมบูรณ์ (Perfectly inelastic) หมายความว่าปริมาณเสนอซื้อไม่เปลี่ยนแปลงเลย แม่ว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงไปก็ตาม

Ed =  เรียกกรณีนี้ว่าอุปสงค์มีความยืดหยุ่นอย่างสมบูรณ์ (Perfectly elastic) หมายความว่า ณ ระดับราคานั้นๆ ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าไม่จำกัดจำนวน แต่ถ้าราคาสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจะไม่ซื้อเลย


การหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาโดยวิธีเรขาคณิต

















ถ้าเราต้องการหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงราคาจาก OE เป็น OA หรือหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา ณ จุด C เราจะได้ว่า

Ed  =   ∆Q  x  P 
            ∆P      Q
       =  -OD x OE
            AE     OD
       =  -OE
            AE
       = -CD
            AE 
       = -BC
           AC

ลักษณะของเส้นอุปสงค์ต่อราคากับค่าความยืดหยุ่น

เส้นอุปสงค์มีความยืดหยุ่นอย่างสมบูรณ์
 
(Perfectly elastic : Ed = ∞ ) 
เส้นอุปสงค์ในกรณีนี้ จะมีลักษณะเป็นเส้นตรงตั้งฉากกับแกนราคาทุกๆจุดบนเส้นอุปสงค์จะมีค่าความยืดหยุ่นต่อราคาเท่ากับ ∞ ตลอดทั้งเส้น
เส้นอุปสงค์ต่อราคาที่มีความยืดหยุ่นอย่างสมบูรณ์


เส้นอุปสงค์ไม่มีความยืดหยุ่นเลย (Perfectly inelastic : Ed =0)
กรณีนี้เส้นอุปสงค์จะเป็นเส้นตรงตั้งฉากกับแกนปริมาณทุกๆ จุดบนเส้นอุปสงค์ จะมีค่าความยืดหยุ่นต่อราคาเท่ากับศูนย์ตลอดทั้งเส้น
เส้นอุปสงค์ต่อราคาไม่มีความยืดหยุ่นเลย

เส้นอุปสงค์มีความยืดหยุ่นเท่าหนึ่ง (Unitary elastic Ed = 1)
กรณีนี้เส้นอุปสงค์จะมีลักษณะเป็นเส้นโค้ง Rectangular hyperbola ทุกๆจุดบนเส้ิุนอุปสงค์มีค่าความยืดหยุ่นต่อราคาเท่ากับหนึ่งตลอดทั้งเส้น

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาและรายรับรวม (Total revenue : TR)

ความสัมพันธ์ระหว่างความยืดหยุ่นของอุปสงค์กับรายรับรวมเมื่อราคาเปลี่ยนแปลง
ราคา Ed = 1 Ed < 1 Ed > 1
สูงขึ้น TR คงที่ TR เพิ่มขึ้น TR ลดลง
ลดลง TR คงที่ TR ลดลง TR เพิ่มขึ้น

Ed > 1  =>  %Q  > %P
PQ    => TR
PQ    => TR

Ed < 1  =>  %Q  < %P
PQ    => TR
PQ    => TR

D ต่อราคา
ทดแทนกันได้มาก         =>  Ed > 1
สัดส่วนต่อรายได้น้อย   =>  Ed < 1
สินค้าจำเป็น                  =>  Ed < 1
เวลาน้อย                       =>  Ed < 1

** ขาดตัวอย่าง **

ปัจจัยกำหนดค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา
1) ความสามารถในการใช้ทดแทนกันของสินค้า
2) มูลค่าสินค้าคิดเป็นสัดส่วนของรายได้
3) สินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าจำเป็น

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้  (Income elasticity of demand) : Ey
หมายถึง เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของปริมาณสินค้าที่มีผู้ต้องการซื้อ ณ ขณะใดขณะหนึ่ง เมื่อรายได้ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์โดยกำหนดให้สิ่งอื่นๆคงที่

Ey  =   เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงปริมาณเสนอซื้อ
                เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงรายได้

Ey   =   ∆Q/Q
             ∆y/y
        =  ∆Q  x  Y
            ∆y       Q

หรือ Ey    =  dQ   x  Y
                    dy        Q

Ey    =  Q2 - Q1   x  y2 - y1
            Q2 + Q1      y2 - y1

Ey    = dQ  x  y2  + y1
           dy      Q2  + Q1  

ตัวอย่างเช่น สมมติให้บริษัทที่ปรึกษาทางด้านวิจัยแห่งหนึ่ง สำรวจข้อมูลการตลาดย้อยหลังเมื่อ 2 ปีก่อนพบว่าในขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อปีของผู้บริโภคเท่ากับ 60,000 บาท ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าของบริษัท A จำนวน 90,000 ชิ้นต่อปี แต่ปลายปีนี้พบว่า ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อปีของผู้บริโภคเท่ากับ 64,000 บาท บริษัท A ขายสินค้าได้ถึง 100,000 ชิ้นต่อปี ถ้าให้ปัจจัยอื่นๆคงที่ เราสามารถหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อหน่วยรายได้ ได้ดังนี้

Ed  =  Q2 - Q1   x  y2  -  y1
          Q2 + Q1      y2  +  y1
 
       =  100,000  -  90,000   x   64,000 - 60,000
           100,000  +  90,000       64,000 + 60,000

       =    10,000   x   124,000
            190,000         4,000

        =   1.63

ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้ (Ey) เท่ากับ 1.63 หมายความว่าเมื่อรายได้ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปร้อยละหนึ่ง จะมีผลให้อุปสงค์ของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าของบริษัท A เปลี่ยนแปลงไปร้อยละ  1.63 และเนื่องจากค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้มีเครื่องหมายบวก แสดงว่าสินค้านี้จัดได้ว่าเป็นสินค้าปกติ (Normal goods) เพราะการเปลี่ยนแปลงของปริมาณอุปสงค์สนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลงของรายได้ในทิศทางเดียวกัน

ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาสินค้าชนิดอื่น
ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคาสินค้าชนิดอื่นหรือความยืดหยุ่นไขว้ (Cross elasticity of demand) หมายถึง เปอรืเซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของปริมาณสินค้าที่มีผู้ต้องการซื้อในขณะใดขณะหนึ่งเมื่อราคาสินค้าชนิดอื่นที่เกี่ยวข้องเปลี่ยนแปลงไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์ โดยกำหนดให้ปัจจัยอื่นๆ คงที่

Exy  =   เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงปริมาณการเสนอซื้อสินค้า X
                      เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า Y

สูตรที่ใช้คำนวณหาค่าความยืดหยุ่นไขว้
ความยืดหยุ่นไขว้แบบจุด
เป็นการคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นไขว้ ณ จุดใดจุดหนึ่งบนเส้นอุปสงค์หรือเรียกว่า ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ในสินค้า X ต่อราคาสินค้า y

Exy   =   ∆Qx  x  Py
             ∆Py       Qx
หรือ
Exy   =  dQx  x  Py
             dPy      Qx

ความยืิดหยุ่นไขว้แบบช่วง
เป็นการคำนวณหาค่า ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ในสินค้า X ต่อราคาสินค้า y ณ ช่วงใดช่วงหนึ่งบนเส้นอุปสงค์

Exy   =  Qx2  -  Qx1    x    Py2 + Py1
             Qx2  + Qx1          Py2 -  Py1

ตัวอย่างเช่น บริษัทแห่งหนึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้า A และ B พบว่าเมื่อเขาตั้งราคาสินค้า B ชิ้นละ 7,000 บาท เขาจะขายสินค้า A ได้จำนวน 35,000 ชิ้นต่อเดือน แต่เมื่อบริษัทขึ้นราึคาขายสินค้า B เป็นชิ้นละ 7,700 บาท ยอดขายสินค้า A ของบริษัทลดลงเหลือเพียง 28,000 ชิ้นต่อเดือน โดยที่ปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อยอดขายของสินค้า A ยังคงที่ จงคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ไขว้ของสินค้า A และอธิบายความสัมพันธ์ของสินค้าทั้งสอง

Ed   =   Qx2  -  Qx1   x Py2  + Py1
             Qx2  + Qx1      Py2  - Py1
   
        =  28,000 - 35,000  x   7,700 - 7,000
            28,000 + 35,000      7,700 + 7,000

        =  -7,000   x  14,700
             63,000         700

        = -2.33

ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์สินค้า A ต่อราคาสินค้า B เท่ากับ -2.33 หมายความว่า เมื่อราคาสินค้า A เปลี่ยนแปลงไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์จะมีผลให้อุปสงค์สินค้า B เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้าม 2.33 เปอร์เซ็นต์ และเครื่องหมายลบแสดงให้เห็นว่าสินค้า A และ B มีความสัมพันธ์กันในลักษณะที่เป็นสินค้าประกอบกัน

ความยืดหยุ่นของอุปทาน (Elasticity of supply)
หมายถึง ค่าทที่ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างราคากับปริมาณเสนอขายของสินค้า โดยจะดูว่าเมื่อกำหนดให้สิ่งอื่นๆคงที่ ในขณะใดขณะหนึ่ง ผู้ขายจะเปลี่ยนแปลงปริมาณการเสนอขายสินค้านั้นไปกี่เปอร์เซ็นต์ หากราคาสินค้าชนิดนั้นเปลี่ยนแปลงไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์

Es  =  เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงปริมาณเสนอขายสินค้า
               เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า

การคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นของอุปทาน

1). ความยืดหยุ่นแบบจุด (Point elasticity of supply) 
เป็นการคำนวณหาค่าความยืดหยุ่นของอุปทาน ณ จุดใดจุดหนึ่งบนเส้นอุปทาน สูตรที่ใช้ในการคำนวนณคือ

Es   =   ∆Q  x  P
            ∆P      Q  
หรือ
Es   =  dQ   x  P
           dP      Q
     
2). ความยืดหยุ่นแบบช่วง (Are elasticity of supply)
เป็นการคำนวนหาค่าความยืดหยุ่น ณ ช่วงใดช่วงหนึ่งบนเส้นอุปทาน สูตรที่ใช้ในการคำนวน ได้แก่

Es  =  Q2  -  Q1    x   P2  + P1
           Q2  + Q1         P2  -  P1  

ค่าความยืดหยุ่นของอุปทาน

อุปทานที่มีความ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อยากรู้เรื่องทฤษฎีการตลาดกับผู้เชี่ยวชาญ ผมแนะนำ M.B.A. (Marketing) Ramkhamkaeng .. แต่ถ้าอยากรู้ว่าเรียนการตลาดแล้วจะประยุกต์ใช้กับธุรกิจประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินได้อย่างไร คุณต้องมีโค้ชแนะนำ ครับ

วางแผนการเงินกับ #finadvisor #ความมั่งคั่งเริ่มต้นที่นี่ finadvisor.co
โค้ชส่วนตัว ช่วยวางแผน

×
News